• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🥇🥇การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) 🛒จุดเริ่มต้นที่ดีของ⚡โครงการก่อสร้าง📌

Started by Hanako5, Jul 26, 2024, 10:57 AM

Previous topic - Next topic

Hanako5

ลักษณะชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอาจมีการแปรปรวน 🥇ทำให้สภาพพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป ✨เช่น มีชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือความลึกของชั้นดินแข็งแรงมีความผันแปรสูง 🥇เป็นต้น จากสภาพของชั้นดินดังกล่าว อาจทำให้ฐานรากเกิดการวิบัติได้ ⚡ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่วิศวกรจะทำการออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น ✨จึงต้องจัดให้มีการสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและละเอียดรอบคอบ ✨เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🎯เมื่อทราบข้อมูลดินบางส่วนแล้ว จะต้องมีการวางแผนการเจาะดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมกับได้ข้อมูลที่แม่นยำ ✨เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่าง ๆ ⚡จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะสมที่สุดไปกับดินทุกสภาพ✅



โครงสร้างต่าง ๆ ✅จะมีความแข็งแรง ต้องรองรับด้วยฐานรากที่มั่นคง 👉ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก 🥇ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม 🦖สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานสำรวจขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ 📌และสภาพของชั้นดิน 🎯โดยวิศวกรออกแบบควรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดของการสำรวจชั้นดินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และออกแบบอย่างเพียงพอ ⚡บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์เสาเข็มโดยผู้เชี่ยวชาญ✨

การเจาะสำรวจดินในเบื้องต้น 🎯คือการขุดหรือเจาะดินเล็กน้อย ✅เพื่อต้องการรู้ชนิดของดิน ลำดับชั้นดิน 📌ระดับน้ำใต้ดิน อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 🎯ส่วนการเจาะสำรวจดินอย่างละเอียด เป็นการวางแผนการเจาะชั้นดินอย่างละเอียด 🌏โดยทั่วไปจะระบุ จุดเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะ ความลึกของหลุมเจาะ👉 การทดสอบด้านใดบ้าง ⚡โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🦖

👉📢🌏ลักษณะการเก็บตัวอย่างดิน คือ👉📢🌏

🌏1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) 🛒เป็นตัวอย่างดินที่ถูกรบกวน ⚡จนทำให้โครงสร้างและการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนแปลง 🥇หรือสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากการเก็บตัวอย่างดินที่ไม่เหมาะสม📌 การขนส่ง และการเก็บรักษาตัวอย่างดิน 🎯ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่ได้จากการทดสอบด้วยสว่านมือ 🦖และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ดินที่ได้ไม่สามารถนำไปทดสอบด้านการรับน้ำหนักของดินได้ ⚡เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด ⚡ซึ่งโครงสร้างดินเปลี่ยนแปลง แต่สามารถใช้จำแนกประเภทของดิน🌏

🥇2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) ✅เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม 🥇โดยพยายามให้ทั้งโครงสร้างและองค์ประกอบของดินทุกอย่างเหมือนกับสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสนาม ⚡ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 🦖ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง ✨สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการได้เกือบทุกประเภท 👉รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน🥇